วันที่ 5 ตุลาคม 2566 สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัด “พิธีมอบรางวัลนวัตกรรม ประจำปี 2566” เนื่องใน “วันนวัตกรรมแห่งชาติ” ซึ่งจัดมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถด้านนวัตกรรม ในฐานะ “พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” พร้อมเชิดชูเกียรติและเผยแพร่ผลงานของนักนวัตกรไทยผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมที่โดดเด่นเป็นประโยชน์ต่อองค์กร สังคม และประเทศ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน
รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ประธานกรรมการ คณะกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นวัตกรรมหลายอย่างถือเป็นจุดเปลี่ยนของโลก ทั้งระบบการผลิต อุตสาหกรรม และเศรษฐกิจการค้าขายของโลก ซึ่งขณะนี้ถือเป็นยุคที่นวัตกรรมมีการเติบโตและพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ตนเชื่ออย่างยิ่งว่าปัญญาประดิษฐ์จะใช้เวลาน้อยมากที่ให้ผู้ใช้งานปรับตัว เพราะจะถูกพัฒนามีความฉลาด เข้าถึง และสามารถถูกนำมาใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น รวมถึงปริมาณของคนรุ่นใหม่ที่มีทักษะของการเขียนโปรแกรมโค้ดดิ้งต่างๆ สามารถต่อยอดจากระบบที่ถูกสร้างไว้ในรูปแบบที่เปิดให้ผู้พัฒนาเข้าไปปรับแต่งโค้ดได้ เกิดการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง สร้างแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจได้รวดเร็ว
“นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์มีนัยผลกระทบต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การจ้างงาน และการศึกษาของประเทศ ดังนั้น การจัดพิธีมอบรางวัลสุดยอดนวัตกรรมให้แก่นวัตกรไทยที่ผลิตหรือคิดค้นผลงานนวัตกรรมที่มีคุณค่าเชิงพาณิชย์ ส่งผลดีต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประโยชน์ใช้สอย อันนำไปสู่การใช้ประโยชน์ของนวัตกรรมให้เป็นที่รู้จักและสนใจกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งจะมีผลในการจูงใจให้ทุกภาคส่วนของประเทศไทยเกิดความสนใจที่จะดำเนินงานโดยมีความเป็นนวัตกรรมอยู่ในกระบวนการอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา” รศ.นพ.สรนิตกล่าว
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ในปี 2566-2570 NIA ได้เปลี่ยนบทบาทจากสะพานเชื่อมสู่การเป็น “ผู้กำหนดทิศทางนวัตกรรม (Focal Conductor)” ผ่านการดำเนินงานภายใต้ 7 กลยุทธ์ ได้แก่ 1) สร้างและยกระดับผู้ประกอบการฐานนวัตกรรม (IBEs) ในอุตสาหกรรมเป้าหมายร่วมกับเครือข่ายตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อพัฒนาและขยายผลโครงการสำคัญใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ 1) Food Tech & Ag Tech 2) Travel Tech 3) Med Tech 4) Climate Tech และ 5) Soft power 2) ส่งเสริมนวัตกรรมแบบเปิดและทำให้ระบบนวัตกรรมไทยเปิดกว้างมากขึ้น โดยเน้นการให้ทุนที่เปิดกว้างและเชื่อมโยงกับแหล่งเงินทุนอื่น 3) ส่งเสริมการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมร่วมกับมหาวิทยาลัยและอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค การพัฒนาย่านนวัตกรรม เมืองนวัตกรรม และระเบียงนวัตกรรมในภูมิภาค 4) เป็นศูนย์กลางการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมที่เอื้อต่อการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เชื่อมโยงการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ 5) ส่งเสริมการตลาดนวัตกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศให้กับผลิตภัณฑ์และบริการของผู้ประกอบการฐานนวัตกรรมในลักษณะของ Business Brotherhood ให้บริษัทขนาดใหญ่มาสนับสนุนการขยายธุรกิจของ IBEs 6) สร้างความตระหนักและการรับรู้ความสำคัญของนวัตกรรมในทุกภาคส่วนผ่านโครงการ Innovation Thailand การจัดประกวดรางวัลนวัตกรรม งาน SITE ฯลฯ เพื่อสร้างแนวร่วมในการขับเคลื่อนระบบนวัตกรรมไทย และ 7) พัฒนาองค์กรไปสู่องค์กรที่พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างยั่งยืน เน้นทำงานแบบ Cross Functional ลดขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยากซับซ้อน